วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

8 วิธีถนอมรักให้ยืนยาว

http://women.kapook.com/wp-content/uploads/2009/06/img3_56645.jpg

 “กว่าที่คน 2 คน จะรักกันได้ก็ยากพออยู่แล้ว แต่การถนอมความรักที่มีต่อกันให้ยั่งยืนยาวนานนั้น ยากยิ่งกว่า” 
          ใครก็ไม่รู้พูดถึงการครองรักนี้ไว้ตรงใจดีเหลือเกิน เคยลองถามคนอื่นๆ ดูถึงเรื่องนี้ ก็มีเสียงยืนยันสนับสนุนท่วมท้นจากผู้มีประสบการณ์ว่า จริงของเขาค่ะ งานนี้ชัวร์ไม่มีมั่วนิ่ม…ได้ยินอย่างนี้แล้วบรรดาคนโสดทั้งหลายก็อย่าเพิ่งขยาด กลัวความรักกันไปเสียหมดนะคะ ใจเย็นๆ ก่อน เพราะถึงการรักษาความรักไม่ให้จืดจางนั้นจะยาก ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางเสียเลยซะทีไหน
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้ชีวิตคู่ของคุณอบอวลไปด้วยความรัก ความสุข คุณและเขาคนนั้นก็ไม่ควรขาดเรื่องสำคัญต่อไปนี้…
1. ซื่อสัตย์ต่อกัน
          เรื่องของความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อกันนั้น นับเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในครอบครัว เพราะสิ่งนี้หมายรวมไปถึง การให้เกียรติ ความไว้ใจ เชื่อถือศรัทธาระหว่างคนในบ้าน การโกหกหลอกลวงและไม่ซื่อตรงต่อกันนั้น เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวมากมายต้องแตกสลายมาแล้ว ดังนั้นถ้าไม่อยากต้องมานั่งกลุ้มใจในภายหลังก็อย่ารินอกใจกันกันเด็ดขาด
2. เปิดเผย จริงใจ
          ความปรารถนาดีอย่างจริงใจ เป็นสิ่งที่คนรักกันควรมอบให้โดยไม่ต้องร้องขอ ความกล้าที่จะติเตียน ชี้แนะถึงข้อผิดพลาด และบกพร่องในทุกๆ เรื่อง และต่างพร้อมรับฟังเพื่อช่วยกันแก้ไขข้อบกพร่อง จะทำให้รักของคุณไม่มีวันจืดจางอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจงอย่ากลัวที่จะพูดความจริงกับคนที่คุณรัก
3. หนักแน่น ไม่ใช้อารมณ์
          แม้ว่าจะรักกันเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว เป็นธรรมดาที่จะต้องมีเรื่องกระทบกระทั่ง โต้เถียงทะเลาะกันบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพียงแต่ต้องไม่ลืมตัว ระบายความรู้สึกออกมาด้วยการใช้อารมณ์โกรธเกรี้ยว ดุด่าทำร้ายกัน ในการแก้ปัญหา แม้ว่าจะไม่พอใจขนาดไหนก็ควรตั้งสติ ข่มใจให้สงบเพื่อหาทนทางแก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะคลี่คลายไปในที่สุด
4. ร่วมทุกข์ร่วมสุข
          ในยามที่เกิดปัญหาขึ้นหรืออุปสรรคในครอบครัว ต้องร่วมมือร่วมใจและอดทนที่จะฝันฝ่าต่อความยากลำบากไปด้วยกัน เป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกข้อที่ไม่ควรมองข้ามไป การปลุกปลอบคอยเป็นกำลังใจต่อกันในยามยาก ย่อมจะทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจจนเกิดเป็นความเป็นความผูกพันที่จะทำให้ ความรักที่มีต่อกันแน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น
5. มีน้ำใจช่วยเหลือกัน
          การแสดงน้ำใจด้วยการช่วยเหลือคนในครอบครัว หรือคู่ชีวิตของคุณ โดยไม่ดูดายทอดธุระให้เป็นหน้าที่ของใครเพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่จะทำให้ความรักในหัวใจระหว่างกันไม่เหือดแห้งหายไป
6. ให้อภัยเมื่อทำผิด
          สุภาษิตเขายังบอกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” แล้วจะประสาอะไรกับคนธรรมดาๆ อย่างตัวคุณเองหรือคนที่คุณรัก ที่คงจะต้องมีเรื่องผิดพลาดในชีวิตขึ้นบ้าง จงให้อภัยและให้โอกาสเขาแก้ตัวใหม่อีกครั้ง
7. ไม่ริดรอนความเป็นส่วนตัว
          ถึงแม้ว่าจะรักกันปานใด แต่มนุษย์ทุกคนยังคนรักอิสระ และต้องการเก็บความเป็นส่วนตัว (แม้จะเหลืออยู่ไม่มากนัก) เพราะฉะนั้นต้องเคารพในความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย ไม่ก้าวก่าย วุ่นวาย และให้อิสระในการใช้ชีวิตต่อกันบ้าง หมดสมัยแล้วกับการที่จะต้องฝืนใจทำสิ่งที่ไม่ชอบเพื่อเอาใจกัน ถ้าทำได้อย่างนี้ชีวิตคู่ของคุณก็จะแฮปปี้ ไม่มีปัญหา
8. บอกรักกันบ้าง
          แม้จะไม่บอกด้วยคำพูดตรงๆ แต่การกระทำที่แสดงออกถึงความรักตามสไตล์หรือแบบฉบับของคุณเอง ที่จะสื่อสารให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกรักที่คุณมีให้ จะเป็นน้ำจิ้มรสเด็ดที่จะช่วยให้ชีวิตรักของคุณทั้งสองมีสีสันมากขึ้น ความโรแมนติก สวีทหวานแหววนานๆ เอามาใช้ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจเสียบ้าง ก็ไม่เสียหายหรอกนะคะ
          เป็นอย่างไรบ้างคะ วิธีถนอมรักที่เอามาฝากกันในครั้งนี้ หวังว่าอ่านแล้วคงไม่ลืมเอาไปใช้กันบ้างนะคะ
ขอขอบคุณและภาพประกอบจาก

โดย: มนตรา

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

มาเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ กันเถอะ

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาฬสินธุ์
พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว PHRA BUDDHA SAIYAT PHUKHAO   


                พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว บ้านนาสีนวล ตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ (ห่างจากจังหวัดประมาณ 36 กม.) มีสิ่งสำคัญได้แก่
พระพุทธไสยาสน์ ที่นาแปลกคือตะแคงซ้าย ไม่มีพระเกตุมาลา สร้างขึ้นเมื่อ พุทธศักราช
2235 อุโบสถสร้างด้วยไม้ใต้น้ำจากอ่างเก็บน้ำ
ลำปาว มีลักษณะเปิดโล่งระเบียงปูด้วยศิลาแลง ซึ่งแกะสลักลวดลายไทยเป็นสามมิติศิลปผสมผสานระหว่างภาคเหนือและภาคกลาง
อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ยังมีวิหารสังฆนิมิตซึ่งเป็นที่เก็บพระพุทธรูปและพระเครื่องเรือนแสน




เขื่อนลำปาว LUMPAO  DAM


               
                  เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนดิน สร้างปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยางที่ต่อเนื่องถึงกันบริเวณเขตติอต่อระหว่างตำบลลำปาว อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี และตำบลเว่อ อำเภอยางตลาด ความยาวตามสันเขื่อน 7.9 ก.ม. ความสูงของเขื่อนตรงส่วนที่สูงที่สุด 30.7 เมตร สันเขื่อน กว้าง 8 เมตร ฐานเขื่อนตอนที่กว้างที่สุด 125 เมตร เก็บกัก น้ำ ได้ 430 ล้านลูกบาศก์เมตร ในเนื้อที่ประมาณ 5,960 ตารางกิโลเมตร โครงการลำปาวเป็นโครงการชลประทาน เพื่อการเกษตรและบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำปาวและน้ำชี ทดส่งและระบายน้ำในคลองซอยต่าง ๆ บริเวรใต้เขื่อนให้ประชาชนในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอยางตลาด และอำเภอกมลาไสย ได้ทำการเพาะปลูกในเนื้อที่ประมาณ 338,000 ไร่นอกจากนี้ทะเลสาบเหนือเขื่อน ยังเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ปลานานาชนิด ประชาชนที่อยู่เหนือเขื่อนซึ่งถูกน้ำท่วมไร่นา ก็จะ หันมาประกอบอาชีพในการจับปลาเพื่อเพิ่มพูนฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว นับว่าเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ประหนึ่งเป็นสายโลหิตชองชาวกาฬสินธุ์ทีเดียว




พิพิธภัณฑ์สิรินทร SIRINTORN  MUSEUM


              ตั้งอยู่ที่เชิงภูกุ้มข้าว อำเภอสหัสขันธ์ สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ (ทางหลวง 227) ประมาณ 28
กิโลเมตร  (ก่อนถึงสหัสขันธ์ 2 กิโลเมตร)  มีทางแยกขวาไปวัดสักวันอีก 1 กิโลเมตร วัดนี้เป็นสถานที่ค้นพบกระดูกไดโนเสาร์จำนวนมาก
โดยซากกระดูกบางส่วนได้นำมาจัดแสดงที่ศาลาวัด มีการจัดนิทรรศการแสดงความเป็นมาของบการเกิดไดโนเสาร์ยุคต่างๆ รวมทั้ง
รูปภาพการขุดค้นพบซากกระดูกเหล่านี้ นอกจากนั้น ห่างจากศาลาวัดไปประมาณ
100 เมตร มีโครงกระดูกไดโนเสาร์ฝังอยู่ในพื้นดิน
บริเวณเชิงเขา ได้รับการขุดแต่งโดยเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีเป็นซากกระดูกไดโนเสาร์ชนิดซอโรพอต
  ประมาณ 7 ตัว ซึ่งอยู่ในยุค
ครีเทเชียส อายุประมาณ
130 ล้านปี และในพิพิธภัณฑ์ฯยังมีซากปลาโบราณพันธุ์ใหม่ของโลกซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ซึ่งเป็นปลาน้ำจืด
มีชื่อว่า"เลปิโดเทส"
 มีความยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตรอยู่ในยุคมีโซโซอิก หรือ65 ล้านปีที่แล้วซึ่งเป็นช่วงเดียวกับไดโนเสาร์ คาดว่า
บริเวณที่พบคงเป็นบึงขนาดใหญ่และเกิดภัยแล้งทำให้ปลาตายและซากถูกโคลนทับไว้กลายเป็นฟอสซิลจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ภายใน
บริเวณเดียวกันยังมีวัดสักกะวัน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อบันดาลฤทธิผล (หลวงพ่อบ้านด่าน) เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยทวารวดี ซึ่งชาวบ้านในท้องถิ่นถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง


ภาวะโลกร้อน (Global Warming)


ภาวะโลกร้อน (Global Warming)
      ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นปัญหาใหญ่ของโลกเราในปัจจุบัน สังเกตได้จาก อุณหภูมิ ของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักของปัญหานี้ มาจาก ก๊าซเรือนกระจก ค่ะ (Greenhouse gases)